บริหารงานก่อสร้างอย่างไร ไม่ขาดทุน
การทำธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กรายใหญ่
ระดับไหนก็ตาม เป้าหมายมีเหมือนกันคือ การทำธุรกิจแล้วต้องมีกำไร
ส่วนจะมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้บริหารของธุรกิจนั้น ๆ เรื่องของกำไรคือ
อนาคตของธุรกิจ การดำเนินธุรกิจที่เกิดกำไรต่ำ หรือมีแนวโน้มจะขาดทุน นั้น ย่อมเป็นสัญญาณ
ถึงฐานะของการประกอบการที่ไม่ค่อยมั่นคง
นอกจากว่าเป็นนโยบายในการบริหารงานที่เน้นการตลาดที่ยังไม่หวังผลกำไรในระยะช่วงแรกของการ
ดำเนินธุรกิจ แต่หวังเข้าสู่ตลาดและแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ก่อน
แต่กลยุทธ์การตลาดวิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีทุนในการดำเนินธุรกิจสูง
และเหมาะกับบางประเภทของธุรกิจเท่านั้น
แต่สำหรับผู้ประกอบการที่มีเงินหมุนเวียนต่ำอาจจะไม่เหมาะสม
เนื่องจากไม่มีเงินทุนสำรอง ที่จะกันไว้ในช่วงระยะที่ขาดทุนได้
แต่ถ้าเป็นการบริหารจัดการของธุรกิจ ประเภทรับเหมาก่อสร้างแล้ว
วิธีการดังกล่าวอาจอาจจะไม่เหมาะสม และคงไม่สามารถยอมรับเรื่องเสี่ยงแบบนี้ได้ โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างที่กำลังเติบโต
และพยามยามยืนให้ได้ในธุรกิจงานก่อสร้างด้วยแล้ว
ต้องทำแล้วมีกำไรอย่างเดียวเท่านั้น ถึงจะอยู่รอด
ดังนั้นการที่ผู้รับเหมางานก่อสร้าง
ที่จะสามารถสร้างกำไรให้เกิดขึ้นได้นั้นก็มีแนวทางหลายประการด้วยกัน
ส่วนแนวทางพื้นฐานประการแรกที่สำคัญคือ เรื่องต้นทุน พูดกันง่ายๆ
คือถ้ามีต้นทุนต่ำก็ทำให้มีกำไรมากนั้นเอง ที่เรียกกันว่า บริหารต้นทุนให้เกิดกำไร
การบริหารต้นทุนที่ทำให้เกิดกำไรมากนั้น ก็เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนเช่นกัน ไม่ใช่ว่าใครจะทำกันได้ง่าย
ๆ เพราะว่าจะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบ หลายเรื่อง การประหยัดต้นทุนในการดำเนินงานนั้น
เราต้องคำนึงถึงว่าจะต้องมีผลกระทบกับงานอย่างแน่นอน ลดต้นทุนนั้นมีผลกระทบต่อคุณภาพของงานแน่นอน ซึ่งข้อนี้ก็เป็นหัวใจสำคัญของการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่จะต้องส่งมอบงาน หากงานมีคุณภาพต่ำ
เนื่องจากเราใช้วัสดุที่มีราคาต่ำ ย่อมเสี่ยงต่อการไม่ผ่าน เมื่อถึงวันตรวจรับงาน ของเจ้าของงาน จะต้องกลับมาแก้ไขงานใหม่ ซึ่งคำว่าแก้ไขงานย่อมมีผลกระทบต่อคำว่ากำไร เพราะค่าใช้จ่ายจะต้องเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
นั้นก็ทำให้กำไรที่ควรจะได้ก็จะค่อย ๆ
ลดลง ผลกระทบที่เกิดจากการการลดต้นทุน เป็นเรื่องจะผู้ประกอบการงานก่อสร้างต้องพิจารณา
ให้รอบคอบก่อนที่จะดำเนินการ ลดต้นทุน
ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง
ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาเป็นพื้นฐานรับมือกับการบริหารงานที่อยู่บน
การบริหารงานที่ไม่แน่นอน และมีการแข่งขันกันสูงในปัจจุบัน ได้มองเห็นว่าเราจะสามารถรับมือกับการบริหารงานก่อสร้างให้ผู้ประกอบการให้เกิดกำไร
สามารถดำรงธุรกิจได้อย่างราบรื่น แก้ปัญหาในการทำงานได้อย่างไร เราก็ลองมาดูกันว่ามีวิธีการอย่างไรบ้างที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตนเองได้มากน้อยหรือให้เหมาะสมได้
อย่างไร
การเลือกลูกค้า
ประการแรกผู้รับเหมาก่อสร้างควรพิจารณาเลือกลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างให้ทำงาน อย่างน้อยก็ควรศึกษาประวัติว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด มีประวัติการจ่ายเงินกับผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างไรรวมทั้งมีวิธีการทำงาน หรือการบริหารงานของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร ผู้รับเหมาควรเลือกลูกค้าที่ไม่มีประวัติการสร้างภาระให้ผู้รับเหมามากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องติดตามทวงค่าจ้าง ถ้าพบว่ามีวิธีการจ่ายเงินไม่ชัดเจน การบริหารงานไม่โปร่งใสน่าจะเป็นอันตรายต่อการทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้าง เช่นกัน
ประการแรกผู้รับเหมาก่อสร้างควรพิจารณาเลือกลูกค้าหรือผู้ว่าจ้างให้ทำงาน อย่างน้อยก็ควรศึกษาประวัติว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด มีประวัติการจ่ายเงินกับผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างไรรวมทั้งมีวิธีการทำงาน หรือการบริหารงานของลูกค้าว่าเป็นอย่างไร ผู้รับเหมาควรเลือกลูกค้าที่ไม่มีประวัติการสร้างภาระให้ผู้รับเหมามากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องติดตามทวงค่าจ้าง ถ้าพบว่ามีวิธีการจ่ายเงินไม่ชัดเจน การบริหารงานไม่โปร่งใสน่าจะเป็นอันตรายต่อการทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้าง เช่นกัน
การศึกษาและการเลือกลูกค้าหรือเจ้าของงานนั้น เป็นกฎเหล็กข้อแรกที่ผู้รับเหมาก่อสร้างจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
เพราะรู้หน้าไม่รู้ใจไม่ควรเชื่อด้วยเหตุผลใด ๆ
ทั้งสิ้น ต้องเชื่อตามข้อตกลง
ด้วยและเงือนไขในสัญญา ส่วนสัญญานั้นต้องโปร่งใสและรัดกุม
มีผลในทางปฏิบัติเท่านั้น เพราะถ้าลูกค้าไม่จ่าย
หรือเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง กิจการเกิดความเสียหาย กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
มาถึงนาทีนี้จะเกิดปัญหาตามมามากมาย เรื่องนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างพึงเน้นปฏิบัติ
ไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง
ทำใบเสนอราคาต้องมีกำไร
หลังจากที่ผู้รับเหมาก่อสร้างเลือก และมั่นใจในลูกค้าที่จะทำงานแล้ว งานต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำใบเสนอราคาค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินในการดำเนินการงานรับเหมาก่อสร้าง โดยการเสนอราคาค่าก่อสร้างนั้น ต้องบวกกำไรที่ต้องการเอาไว้ด้วย กำไรของผู้รับเหมาจะต้องเป็นตัวเลขที่เหลือหลังจากหักค่าดำเนินการทุกอย่างแล้วเท่านั้น โดยกำไรนั้นต้องไม่น้อยกว่า 10% แล้วควรคำนึงถึงธรรมชาติหรือลักษณะของงานนั้น เป็นฐานในการพิจารณา
หลังจากที่ผู้รับเหมาก่อสร้างเลือก และมั่นใจในลูกค้าที่จะทำงานแล้ว งานต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำใบเสนอราคาค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินในการดำเนินการงานรับเหมาก่อสร้าง โดยการเสนอราคาค่าก่อสร้างนั้น ต้องบวกกำไรที่ต้องการเอาไว้ด้วย กำไรของผู้รับเหมาจะต้องเป็นตัวเลขที่เหลือหลังจากหักค่าดำเนินการทุกอย่างแล้วเท่านั้น โดยกำไรนั้นต้องไม่น้อยกว่า 10% แล้วควรคำนึงถึงธรรมชาติหรือลักษณะของงานนั้น เป็นฐานในการพิจารณา
การเสนอราคาให้มีกำไร โดยคิด BOG (รายการวัสดุ
และค่าแรงงานในงานก่อสร้าง) ให้ชัดเจนตรงประเด็น เพราะผู้เป็นเจ้าของงานบางรายอาจยังไม่เข้าใจในโครงสร้างของต้นทุน
ในการทำต้นทุนงานก่อสร้าง ต้องให้เจ้าของงานอ่านแล้วเข้าใจง่าย
จะได้เข้าใจตรงกันว่าผู้รับเหมาก่อสร้างไม่ได้บวกกำไรมากจนเกินไป เนื่องจากเรื่องต้นทุนนี้ เป็นรายการที่มีความเสี่ยงมากสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้าง
โดยเจ้าของงานอาจคิดว่าผู้รับเหมาจะมีกำลังบวกกำไรมากเกินความเป็นจริง และปกปิดงานอะไรบางอย่างไว้
ซึ่งทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างได้กำไรมาก ๆ
ซึ่งความไม่ไว้วางใจผู้รับเหมาจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ
เรื่องนี้ผู้รับเหมาต้องลบความรู้สึกของเจ้าของงานให้ได้
นอกจากนั้นผู้รับเหมาก่อสร้างจะต้องพยายามเขียน หรือเสนอรายละเอียดในเนื้องานให้เจ้าของงานได้เข้าใจให้มากที่สุดว่าทำไมเจ้าของงาน
จึงเลือกจ้างผู้รับเหมารายนี้ เพราะอะไรก็เพราะเรามีความพร้อม มีความชำนาญ มีประสบการณ์
มีผลงานที่มีคุณภาพ และเหมาะกับราคาที่นำเสนออย่างไร ไม่ใช่มองแค่เสนอราคาต่ำได้งานมาทำ แต่ทำงานไม่ได้คุณภาพจะทำให้เจ้าของงานและผู้รับเหมาก่อสร้างเสียหายภายหลังได้
การนำเสนอราคาตามความเป็นจริง ให้สามารถยอมรับกันได้
จนได้รับการอนุมัติงานมาดำเนินงานก่อสร้างก่อสร้าง
ย่อมเป็นทางออกที่น่าดำเนินการ
เพราะถ้ารับงานแล้วไม่ชัดเจนในกำไรก็อย่าเสนอราคา และอย่าทำดีกว่า เพราะไม่คุ้มด้วยประการทั้งปวง รับงานแล้วต้องมีกำไร ไม่ใช่แค่รับงานมาแล้ว
ต้องเสี่ยงต่อการเสมอตัวหรือขาดทุน ซึ่งเทคนิคในการรับงานรับเหมาก่อสร้างให้มีกำไรประการหนึ่งที่อยากแนะนำก็
คือเรื่องเลือกงานที่เรามีจุดแข็ง งานที่เรามีความถนัดเรามีความเชียวชาญ
เช่น เลือกงานที่มีทำเลที่ตั้งที่เรามีต้นทุนต่ำ
ใกล้แหล่งวัตถุดิบ หน้างานใกล้ไซค์งานเดิมที่ทำอยู่ การคมนาคมสะดวก ไม่ต้องหาเครื่องจักรเพิ่ม หาใช้วัสดุที่ใช้ทดแทนกันได้ ใกล้แหล่งแรงงานหรือเลือกประเภทงานที่เรามีความรู้หรือชำนาญงานนั้นเป็นกรณีพิเศษ
ซึ่งจุดแข็งหรือความละเอียดตรงนี้จะทำให้ผลประกอบการมีกำไรอย่างแน่นอน
ระดมสมอง (Brainstorming)
หลังจากได้รับการคัดเลือกหรือได้งานดำเนินการแล้ว ผู้บริหารงานก่อสร้างต้องรีบเรียกประชุมระดมสมอง
กับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ใช่คิดวางแผนกันเอง เพียงคนไม่กี่คนของฝ่ายบริหารเท่านั้น ควรเรียกระดมสมองกัน ตั้งแต่ผู้บริหารสูงสุด ผู้จัดการโครงการ
วิศวกร สถาปนิก โฟร์แมน ผู้คุวงานก่อสร้าง ผู้ประเมินราคา ฝ่ายบัญชีการเงิน ฝ่ายจัดซื้อและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นวางแผนงานร่วมกัน
โดยเป้าหมาย คือความสำเร็จของงานเป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะเรื่องต้นทุน เรื่องเวลา
วัสดุอุปกรณ์ และคุณภาพของงาน
ว่าทำอย่างไรจะทำให้ต้นทุนต่ำที่สุด มีคุณภาพงานที่เหมาะสมผ่านมาตรฐานการตรวจรับ
ในวันมอบงาน วางแผนงานอย่างไรที่งานควนเสร็จก่อนกำหนด และทันเวลาสามารถควบคุมคุมงบประมาณและต้นทุนได้มากน้อยเพียงใด
ตรงจุดไหนบ้างทำอย่างไร เมื่อส่งมอบงานเสร็จแล้ว
การเบิกค่าใช้จ่ายเป็นงวด ๆ ได้ อุปสรรคในการทํางานที่จะทำให้งานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
นั้นมีอะไรบ้าง แล้วจะมีการวางแผนรองรับอุปสรรคอย่างไร โดยกำหนดแนวทางการทำงานที่เป็นข้อตกลงร่วมกัน
ให้เกิดผลในทางปฏิบัติงาน และให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ติดตาม ควบคุมค่าใช้จ่าย
งานของผู้รับเหมาก่อสร้างในขณะที่ทำงานภาคสนาม
ต้องยอมรับว่ามีงานมากหลายขั้นตอน ถ้าลำดับเรื่อง ลำดับงานหรือวางแผนไม่ชัดเจนยอมจะเกิดความสับสน
โดยเฉพาะเรื่องของการควบคุมต้นทุนผู้รับเหมาต้องพยายามควบคุมต้นทุน เรื่องค่าใช้จ่ายให้ได้
ต้องทำการบันทึกค่าใช้จ่าย ถ้าไม่ทำการบันทึกและควบคุมให้อยู่ในกรอบที่จำเป็นแล้ว จะต้องมีผลกระทบต่อต้นทุนทำให้บานปลายได้ โดยเฉพาะค่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ค่าแรง ค่าจ่ายงานล่วงหน้า ค่าจ้างผู้รับเหมาช่วง
ค่าน้ำมันค่าเชื้อเพลิง ค่าขนส่งและอื่น ๆอีกมากมาย ถ้าไม่ทำการบันทึกและควบคุมให้ดีต้องเกิดความเสียหายมีผลต่อตัวเลขในการประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในเรื่องนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างควรวางกรอบจัดระบบเอกสารเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับเนื้อหาและกิจการของตนเอง
โดยเฉพาะในยุคนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการควบคุมต้นทุนและที่กำลังเป็นที่นิยมก็คือโปรแกรมบิลค์
ที่เรียกว่า Builk
Cost Control โดยโปรแกรมนี้มีให้เลือกใช้กันฟรีโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ซึ่งความสามารถของซอฟต์แวร์นี้เป็นเรื่องของการควบคุมต้นทุน มีการแจ้งเตือนว่ามีการใช้ต้นทุนเกินงบประมาณที่ได้กำหนดไว้ ในระบบมีการบันทึกค่าใช้จ่ายเป็นวันต่อวันสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
ซึ่งเหมาะสมกับธุรกิจงานก่อสร้างทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จึงเป็นรูปแบบการทำงานที่ทันสมัย
โดยอาศัยเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยในการทำงานให้คล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น
ทั้งยังสามารถตรวจสอบได้ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของงานก่อสร้างได้มากขึ้นทั้งยังทำให้องค์กรมีการพัฒนา
สร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจวงการก่อสร้างได้อย่างยั่งยืนด้วย
ไม่ขาดเงินทุนหมุนเวียน
ประกอบการด้านรับเหมาก่อสร้างจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีเงินทุนสำรอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหมุนเวียนในการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 30% ของโครงการงานก่อสร้างที่จะดำเนินการ ถ้าไม่มีเงินทุนหมุนเวียนจะอาศัยเงินหมุนเวียน ที่ต้องรอเงินเบิกจ่ายเป็นงวด ๆ นั้นเรื่องเสี่ยงต่อการบริหารงานเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเจ้าของงานจ่ายเงินเป็นงวด ๆ นั้น ถ้างวดไหนจ่ายช้าไปเพียงวันเดียว ก็อาจจะทำให้งานติดขัดได้ทันที การปฏิบัติงานก่อสร้างต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นรายวันมีทั้งค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและค่าใช้จ่ายประจำที่จำเป็นในขณะทำงาน การขาดเงินอาจทำให้งานชะงักทันที เมื่องานล่าช้าต้นทุนงานก่อสร้างต้องเพิ่มขึ้นขณะเดียวกันกำไรที่ควรได้ ก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ
ประกอบการด้านรับเหมาก่อสร้างจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีเงินทุนสำรอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหมุนเวียนในการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 30% ของโครงการงานก่อสร้างที่จะดำเนินการ ถ้าไม่มีเงินทุนหมุนเวียนจะอาศัยเงินหมุนเวียน ที่ต้องรอเงินเบิกจ่ายเป็นงวด ๆ นั้นเรื่องเสี่ยงต่อการบริหารงานเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเจ้าของงานจ่ายเงินเป็นงวด ๆ นั้น ถ้างวดไหนจ่ายช้าไปเพียงวันเดียว ก็อาจจะทำให้งานติดขัดได้ทันที การปฏิบัติงานก่อสร้างต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นรายวันมีทั้งค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและค่าใช้จ่ายประจำที่จำเป็นในขณะทำงาน การขาดเงินอาจทำให้งานชะงักทันที เมื่องานล่าช้าต้นทุนงานก่อสร้างต้องเพิ่มขึ้นขณะเดียวกันกำไรที่ควรได้ ก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ supplier
ในวงการก่อสร้าง การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เป็นพันธมิตรซัพพลายเออร์นั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ
ผู้รับเหมางานก่อสร้างต้องมองซัพพลายเออร์ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนที่ช่วยงาน ควบคุมการสร้างธุรกิจรับเหมาซึ่งกันและกันให้เติบโตไปด้วยกัน
ซึ่งเรื่องนี้เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงและสร้างขึ้นเป็นอย่างยิ่ง งานก่อสร้างจะมีกำไรได้ต้องลดต้นทุนให้สำเร็จ พันธมิตรที่ดีจะช่วยให้เราลดต้นทุนได้ โดยเฉพาะซัพพลายเออร์
ประเภทวัสดุก่อสร้าง เขาจะสามารถช่วยเราได้ในเรื่องของราคาวัสดุ ให้มีราคาต่ำได้ ยิ่งถ้าได้ซัพพลายเออร์ที่ดีจะสามารถช่วยเราวางแผนได้ว่าแหล่งวัตถุวัสดุก่อสร้างจากแหล่งไหนจะราคาถูก
ร้านไหนส่งวัสดุก่อสร้างให้ตรงและทันเวลา ทำให้หน้างานไม่สะดุด บริการได้รวดเร็วทันใจ
ซึ่งถ้ามีพันธมิตร ประเภทนี้แล้วเราจะต้องรักษาความสัมพันธ์ไว้ให้นาน ๆ สร้างความเคารพ นับถือซึ่งกันและกัน ไม่เอาเปรียบกัน
และการจ่ายเงินก็ตรงต่อเวลา การปฏิบัติต่อกันด้วยความโปร่งใส เป็นมิตร ตรงไปตรงมา ถ้าปฏิบัติได้อย่างนี้ความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นต้องดี
และยาวนานอย่างแน่นอน เพราะต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ในขณะซัพพลายเออร์ก็อยากขายวัสดุก่อสร้าง
ส่วนผู้รับเหมาก่อสร้างก็ต้องการใช้วัสดุมาก่อสร้างโดยเป็นไปในลักษณะเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืน
ต้องดูแลคนงาน ดุจญาติมิตร
แรงงานก่อสร้างนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในอันดับต้น ๆ ของงานก่อสร้าง ยิ่งในปัจจุบันแรงงานไทยไม่ค่อยนิยมทำงานก่อสร้าง ผู้รับเหมางานก่อสร้างต้องอาศัยแรงงานจากต่างชาติมากขึ้น แรงงานที่จำเป็นของผู้รับเหมาก่อสร้าง ประกอบด้วยแรงงานไร้ฝีมือกับแรงงานที่มีฝีมือ แรงงานทุกประเภท นี้ผู้รับเหมาก่อสร้างควรรักษาไว้ให้ดี เพราะมีหลายท่านในวงการก่อสร้างได้พูดถึงแรงงานเหล่านี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่มีเขา เราแย่ นั่นหมายความว่าถ้าไม่มีแรงงานก่อสร้างแล้วธุรกิจก่อสร้างจะเดินไปได้อย่างไร การดูแลใส่ใจเรื่องแรงงานก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการเป็นพิเศษไม่แพ้เรื่องอื่นเช่นกัน ผู้รับเหมาที่มองอนาคตจะไม่ละเลยพื้นฐานชีวิตของแรงงาน ถ้าเราเลี้ยงเขาให้กินอิ่ม นอนอุ่น จ่ายเงินตรงตามเวลา มีสวัสดิการความไม่อยู่ที่เหมาะสมแก่ฐานะ แน่นอนแรงงานย่อมอยู่กับเราจนจบโครงการ
หากผู้รับเหมาก่อสร้างทำได้อย่างนี้ รับรองว่าจะไม่มีวันขาดแคลนแรงงานอย่างแน่นอนไม่ต้องเหนื่อยกับการหาแรงงานมาเพิ่มอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเงินดีสวัสดิการดี แรงงานก็จะติดต่อกันมาทำงานให้เราโดยไม่ต้องเหนื่อย เพราะผู้รับเหมารายนี้น่าเชื่อถือ แต่ถ้าผู้รับเหมาจ่ายเงินค่าจ้างไม่ตรงเวลา เลื่อนไปมาบ่อย ๆ สวัสดิการก็ไม่มีหรือมีก็น้อย การดูแลอันตรายก็ไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ ผู้ใช้แรงงานงานก็ต้องกิน ต้องใช้ เช่นกัน ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ผู้รับเหมาต้องเตรียมตัวหาแรงงานใหม่มาเพิ่มอยู่ตลอด เวลาเพราะ เงินเดือนออก ฉันต้องออก
เรื่องแนวทางการบริหารจัดการงานทั้งหมดที่ได้นำเสนอนี้ เป็นเกร็ดแนวทางเพียงบางส่วนเท่านั้นในการบริหารงานจัดการของงานก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ บางท่านอาจจะทราบอยู่แล้วแต่อาจจะละเลยหรือลืมไปว่าในเรื่องดังกล่าว จึงได้นำมาเสนอทบทวนความจำกันอีกครั้ง ถ้ามองในมุมที่เกิดประโยชน์ และมองด้วยเหตุผล ตามแนวทางนี้ว่าน่าจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย ต่อผู้ประกอบการในงานก่อสร้างเนื่องจากเป็นเรื่องพื้นฐานง่าย ๆ ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะและเทคนิคพิเศษอะไร สามารถดำเนินการได้เลย เพียงแต่ใช้จิตสำนึกที่เป็นธรรมและเติมความใส่ใจ ความตั้งใจเข้าไปเท่านั้น ก็น่าจะทำให้ผลประกอบการที่ดีอยู่แล้ว มีความเข้มแข็งมากขึ้นตามลำดับ และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมธุรกิจเดียวกันและสังคมโลกผ่านพ้นอุปสรรค ปัญหางานก่อสร้างก็จะลดลง มุ่งไปสู่การพัฒนาวงการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ชื่อเสียงขององค์กรได้รับการยอมรับจากสังคม และเป็นตัวอย่างที่ดีในความรับผิดชอบต่อสังคมและการบริหารงานที่เป็นธรรมาภิบาลตลอดไป
แรงงานก่อสร้างนับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากในอันดับต้น ๆ ของงานก่อสร้าง ยิ่งในปัจจุบันแรงงานไทยไม่ค่อยนิยมทำงานก่อสร้าง ผู้รับเหมางานก่อสร้างต้องอาศัยแรงงานจากต่างชาติมากขึ้น แรงงานที่จำเป็นของผู้รับเหมาก่อสร้าง ประกอบด้วยแรงงานไร้ฝีมือกับแรงงานที่มีฝีมือ แรงงานทุกประเภท นี้ผู้รับเหมาก่อสร้างควรรักษาไว้ให้ดี เพราะมีหลายท่านในวงการก่อสร้างได้พูดถึงแรงงานเหล่านี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่มีเขา เราแย่ นั่นหมายความว่าถ้าไม่มีแรงงานก่อสร้างแล้วธุรกิจก่อสร้างจะเดินไปได้อย่างไร การดูแลใส่ใจเรื่องแรงงานก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการเป็นพิเศษไม่แพ้เรื่องอื่นเช่นกัน ผู้รับเหมาที่มองอนาคตจะไม่ละเลยพื้นฐานชีวิตของแรงงาน ถ้าเราเลี้ยงเขาให้กินอิ่ม นอนอุ่น จ่ายเงินตรงตามเวลา มีสวัสดิการความไม่อยู่ที่เหมาะสมแก่ฐานะ แน่นอนแรงงานย่อมอยู่กับเราจนจบโครงการ
หากผู้รับเหมาก่อสร้างทำได้อย่างนี้ รับรองว่าจะไม่มีวันขาดแคลนแรงงานอย่างแน่นอนไม่ต้องเหนื่อยกับการหาแรงงานมาเพิ่มอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเงินดีสวัสดิการดี แรงงานก็จะติดต่อกันมาทำงานให้เราโดยไม่ต้องเหนื่อย เพราะผู้รับเหมารายนี้น่าเชื่อถือ แต่ถ้าผู้รับเหมาจ่ายเงินค่าจ้างไม่ตรงเวลา เลื่อนไปมาบ่อย ๆ สวัสดิการก็ไม่มีหรือมีก็น้อย การดูแลอันตรายก็ไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยก็ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ ผู้ใช้แรงงานงานก็ต้องกิน ต้องใช้ เช่นกัน ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ผู้รับเหมาต้องเตรียมตัวหาแรงงานใหม่มาเพิ่มอยู่ตลอด เวลาเพราะ เงินเดือนออก ฉันต้องออก
เรื่องแนวทางการบริหารจัดการงานทั้งหมดที่ได้นำเสนอนี้ เป็นเกร็ดแนวทางเพียงบางส่วนเท่านั้นในการบริหารงานจัดการของงานก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ บางท่านอาจจะทราบอยู่แล้วแต่อาจจะละเลยหรือลืมไปว่าในเรื่องดังกล่าว จึงได้นำมาเสนอทบทวนความจำกันอีกครั้ง ถ้ามองในมุมที่เกิดประโยชน์ และมองด้วยเหตุผล ตามแนวทางนี้ว่าน่าจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย ต่อผู้ประกอบการในงานก่อสร้างเนื่องจากเป็นเรื่องพื้นฐานง่าย ๆ ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะและเทคนิคพิเศษอะไร สามารถดำเนินการได้เลย เพียงแต่ใช้จิตสำนึกที่เป็นธรรมและเติมความใส่ใจ ความตั้งใจเข้าไปเท่านั้น ก็น่าจะทำให้ผลประกอบการที่ดีอยู่แล้ว มีความเข้มแข็งมากขึ้นตามลำดับ และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมธุรกิจเดียวกันและสังคมโลกผ่านพ้นอุปสรรค ปัญหางานก่อสร้างก็จะลดลง มุ่งไปสู่การพัฒนาวงการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ชื่อเสียงขององค์กรได้รับการยอมรับจากสังคม และเป็นตัวอย่างที่ดีในความรับผิดชอบต่อสังคมและการบริหารงานที่เป็นธรรมาภิบาลตลอดไป
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น