วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

ซีแพนเน

ซีแพนเนล  “CPanel”  เดินหน้าเติบโต ปี 60 เจาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง


Description: http://www.manager.co.th/images/blank.gif
Description: http://www.manager.co.th/images/blank.gif
    CPanel”  เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง และบน   ยังขยายตัว ผู้ประกอบการผุดโครงการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง เน้นใช้ผนังสำเร็จรูปก่อสร้าง  ลดต้นทุน บริหารความเสี่ยง เดินหน้าเจาะลูกค้ารับเหมาก่อสร้าง และงานภาครัฐ ดันเออร์เดอร์ขยายตัว โชว์ Backlog  320  ล้านบาท



       นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (CPanel)   ปัจจุบันภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางและระดับบน มีสัญญาณที่ดี จากการที่ภาครัฐมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจคต่าง ๆ ส่งผลให้มีการลงทุนใน โครงการใหม่ ๆ  มากขึ้น ขณะที่ตลาดผนังสำเร็จรูปปีนี้สามารถขยายตัวได้ ปัจจัยนี้เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รายใหญ่มีแผนที่จะออกโครงการอย่างต่อเนื่อง  และมีแนวโน้มที่จะใช้ผนังสำเร็จรูปแทนการก่อสร้างในรูปแบบเดิม  ทั้งนี้โครงการต่าง ๆ ต่างก็มีความต้องการใช้ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปมาใช้ในงานก่อสร้างแทนวัสดุอื่น ๆ ที่เคยใช้  เนื่องจากเป็นวัสดุที่ใช้งานง่าย  มีความแข็งแรง ทนทาน ลดต้นทุนแรงงาน  ตอบโจทย์ การบริหารจัดการ  ระยะเวลาการทำงาน และช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ของผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี  จากความต้องการดังกล่าวทำให้เชื่อว่า  เมื่อภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เข้าสู่ภาวะปรกติ  ความต้องการใช้งานของผนังคอนกรีต สำเร็จรูป จะปรับตัวสูงขึ้น อย่างแน่นอน
           สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดในปีนี้  CPanel  ยังคงต้องรักษาฐานลูกค้าเดิม และเดินหน้าทำตลาดแนะนำผลิตภัณฑ์ กับลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นที่กลุ่มผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง   และขณะเดียวกันก็ยังมีความสนใจจะขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง  ตลอดจนโครงการก่อสร้าง ต่าง ๆ  ของภาครัฐ  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอสัญญาจากโครงการของภาครัฐอยู่ 3 ราย ส่วนทางด้านผู้รับเหมาอยู่ระหว่างการพิจารณา โครงการคอนโดมิเนียม อีก  4   ราย  นอกจากนั้นก็อยู่ในระหว่างการเจรจา กับผู้รับเหมาจากประเทศมาเลเชีย อีก  2 ราย

          ส่วนผู้รับเหมาทั้งใน และต่างประเทศต่างก็หันมาให้ความสนใจในเทคโนโลยี่การก่อสร้างเป็นจำนวนมากขึ้น  อาจจะมาจากสาเหตุจากความต้องการลดจำนวนแรงงานที่อยู่หน้าไซต์งาน  และการส่งมอบงานที่ต้องรวดเร็วขึ้น  จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง หันมาใช้งานผลิตภัณฑ์ ผนังสำเร็จรูปกันเป็นจำนวนมาก

       คุณนายชาคริต ทีปกรสุขเกษม  ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog)  320  ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ จนถึงปี 2561  ขณะที่กำลังการผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูปของบริษัท ปัจจุบัน อยู่ที่
60 - 65 และได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของปีนี้อยู่ที่ 30 หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ  370  ล้านบาท


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น