วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

งบประมาณปี 60

งบประมาณปี 60 เค้กก้อนใหญ่ ก่อสร้างไทย

                เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายให้ทันในปีงบประมาณพุทธศักราช  2560  ที่จะนำไปใช้บริหารประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2560 ซึ่งเป็นรอบปีของงบประมาณใหม่ ของปี  2560  นั้นทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย  ประธานสภาตินิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นำเรื่องงบประมาณเข้าสู่การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 หลังจากที่พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมาธิการ  (กมธ.)  มาแล้ว เป็นวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีพุทธศักราช  2560 ในวงเงิน   2,733,000 ล้านบาท นั้น และก่อนหน้านี้ก็มี นายอภิศักดิ์  ตันจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พิจารณาปรับลดวงเงินมาอยู่ที่ 17,930.212.800 บาท โดยให้เหตุผลว่าวงเงินจำนวนดังกล่าวน่าจะสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่รัฐบาลได้วางหลักไว้อีกทั้งยังให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12   นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ   แผนแม่บทระดับชาติ  และสอดรับกับแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาล  อีกทั้งได้คำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2559 ที่ผ่านมา ร่วมพิจารณา นอกจากนั้นยังได้นำปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องมาประกอบพิจารณาในการกำหนดงบประมาณ  ครั้งนี้ด้วย

                เราจะเห็นว่าในรอบปี  2559 ที่ผ่านมามีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.0 ถึง 3.5 ในลักษณะที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งสืบเนื่องจากการขยายตัวร้อยละ 2.8 ในรอบปี 2558  อีกทั้งมีปัจจัยเกื้อหนุนที่สำคัญในการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐในเรื่อง Mega Project ในโครงการก่อสร้างสิ่งจำเป็นพื้นฐานของประเทศ ในระดับต่าง ๆ ที่กลายเป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจในระดับสูง และการขับเคลื่อนของมาตรฐานเศรษฐกิจของภาครัฐที่ได้ผลในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พ. ศ. 2559 การขยายตัวด้านเศรษฐกิจของไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ก็มีปัจจัยร่วมหลายอย่าง เช่น รายได้จากการท่องเที่ยว  ราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่  และแนวโน้มการเริ่มปรับตัวดีขึ้นของภาคการผลิต ภาคเกษตรกรรม ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง  อย่างไรก็ตามการขยายด้านเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังมีข้อจำกัด และมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวในเกณฑ์ต่ำ การลดลงของราคาสินค้าในตลาดโลก  ค่าเงินบาทที่ยังคงมีความเสี่ยงมีความผันผวนและแข็งค่า  อาการปรับตัวของดอกเบี้ยตามนโยบายของสหรัฐมีความล่าช้า  รวมทั้งสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมาอย่างต่อเนื่อง   แต่โดยรวมแล้วเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2559 คาดว่าจะอยู่ที่ช่วงร้อยละ 0.1 ถึง 0.6

ในปีงบประมาณ พุทธศักราช  2559  หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณสูงสุด  10 หน่วยงาน


                ในขณะที่วงการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มแนวโน้มสูงมากขึ้น ร้อยละ 3.4 ของผลิตภัณฑ์รวมทั้งหมดในประเทศ
                ในปีพุทธศักราช  2560 คาดว่าจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.7 ถึง 4.2  เป็นผลมาจากการปรับตัวดีอย่างต่อเนื่องจากปี 2559 โดยมีปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุน จากการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจโลกจึงทำให้ภาคการส่งออกของไทยเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง และขยายตัวอีกครั้ง  ขณะเดียวกันการสนับสนุน ให้เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศก็ดีขึ้น รวมกับแนวโน้มของความคืบหน้าของโครงการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การลงทุนของภาคเอกชนขยายตัว ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น  ส่วนภาคการผลิต การเกษตรในปี   2560 ก็มีแนวโน้มขยายตัว  ซึ่งจะเป็นปัจจัยเร่ง สนับสนุนขยายตัวในเรื่องการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของประชาชนมากขึ้น ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ในอนาคต

                ด้วยปัจจัยที่เกื้อหนุนจาก ปี 2559  น่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2560 ให้ขยายตัวมากขึ้น และคาดว่า ยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงประมาณ 1.7 ถึง 2.2 ในขณะที่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มปรับตัวลดลงอย่างช้า ๆ   แนวโน้มการฟื้นตัวของการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศได้มากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ในระยะที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้ภาครัฐนำมาเป็นเหตุผลในการกำหนดงบประมาณรายจ่ายประจำปีพุทธศักราช 2560

                หลังจากนั้นมาประมาณต้นเดือนกันยายน  2559 ที่ผ่านมาเรื่องงบประมาณ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของที่ประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2560 นั้นในที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบในระหว่างการประชุมพิจารณานั้นก็ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและในระหว่างนั้นได้มีสมาชิกร่วมแสดงความคิดเห็น 2  ท่าน ประกอบด้วยนายสมชาย  แสวงการ  และนายวัลลภ  ตังคณานุรักษ์  ที่ประชุมพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 รวม 2 ชั่วโมง 30 นาที   หลังจากนั้นก็ได้เปิดให้สมาชิกลงประชามติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในร่างงบประมาณ   โดยให้ออกเสียงอย่างเป็นทางการ  ปรากฏว่าการออกเสียงในที่ประชุมเสียงเป็นเอกฉันท์เห็นความชอบในหลักการ ในร่างงบประมาณประจำปีงบประมาณรายจ่ายปี พุทธศักราช 2560

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบ  183 คะแนน   งดออกเสียง 2 เสียง   ไม่ลงคะแนน 1 เสียง  และเป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีเสียงคัดค้านแต่อย่างใด

                เมื่อผลลงคะแนนตามมติเป็นเอกฉันท์ ใน งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติบัญญัติเรียบร้อยแล้ว  หลังจากนี้เป็นต้นไป  นายกรัฐมนตรีก็จะนำร่างงบประมาณรายจ่ายนี้เข้าสู่กระบวนการทูลเกล้าเพื่อให้ลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ต่อไป
                        โดยในเนื้อหาสาระของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปีพุทธศักราช 2550 ฉบับนี้ได้ตั้งวงเงินงบประมาณไว้จำนวน    2,733,000.000  บาท จะสังเกตได้ว่ามีงบประมาณเพิ่มขึ้นจาก งบประมาณรายจ่ายปี 2559  ถึง  13, 000 ล้านบาท


                ส่วนงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ. ศ. 2560 นี้มีกระทรวงที่ได้รับงบรายจ่ายสูงสุด ซึ่งเรียงลำดับจาก จากมากไปหาน้อย มีทั้งหมด 5 กระทรวง ด้วยกัน    เช่น กระทรวงศึกษาธิการได้รับเงินจำนวน 493,051,854,00 บาท ต่อมาก็เป็นกระทรวงกลาโหมได้รับเงินจำนวน 210,777,461,400 บาท   กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงิน 126,196,350,000  บาท  กระทรวงมหาดไทยจำนวน 73,624, 831,600 บาท  แล้วสุดท้ายเป็นกระทรวงคมนาคมจำนวน 63,538,688,500 บาท  

               จะเห็นได้ว่าในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมี ยังจังหวัดที่ได้รับงบประมาณมากที่สุดคือจังหวัดนครราชสีมาได้งบประมาณจำนวน 424 ล้านบาท ส่วนจังหวัดที่ได้อันดับรองมาคือ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 396 ล้านบาท   ส่วนจังหวัดที่ได้รับงบประมาณในปีนี้ น้อยที่สุด คือจังหวัดระนอง ได้รับเพียง 162 ล้านบาท


นอกจากนั้น ยังมีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษ  2  แห่ง  ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้ด้วยคือ เขตการปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษพัทยา ได้รับไป 1,589 ล้านบาท  ส่วนกรุงเทพมหานคร รับไป 19,974  ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นปัจจัยในเรื่องของพื้นที่และจำนวนความหนาแน่นของประชากร มาร่วมพิจารณาด้วย นั้นเอง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น