[ เมื่อทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ฯ ได้รับทราบเรื่องร้องทุกข์และปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบที่เกิดจากอุทกภัยน้ำท่วม
จากสมาชิกและผู้ประกอบการก่อสร้างแล้ว ทางสมาคม ฯ ก็ได้ดำเนินการนำข้อเรียกร้องและข้อเสนอดังกล่าวนั้น
นำเสนอต่อภาครัฐเพื่อหามาตรการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน ต่อมาทาง ภาครัฐก็ให้ความสำคัญ โดยออกมาตรการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการ
ที่ได้รับความเดือนร้อน ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ]
สังวรณ์ ลิปตพัลลภ
นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ฯ
-----------------------------------------
จากการที่ทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้รับข้อร้องเรียน ข้อร้องทุกข์และปัญหาความเดือดร้อน ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุทกภัยน้ำท่วมจากสมาชิกและผู้ประกอบการก่อสร้างนั้น เมื่อทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ฯ ได้รับเรื่องดังกล่าวแล้ว
ก็ได้รีบดำเนินการโดยท่านนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ฯ (คุณสังวรณ์ ลิปตพัลลภ) ก็ได้ติดตามเรื่องและรับทราบปัญหาและได้ดำเนินการหาทางช่วยเหลือสมาชิก
และผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น โดยทางสมาคมได้นำข้อร้องเรียนและข้อเสนอดังกล่าว
นำเสนอทางภาครัฐ เพื่อให้พิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมนั้น ทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยได้ทำหนังสือถึงภาครัฐที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง
ครั้งที่ 1 ส่งหนังสือไปเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 ครั้งที่ 2
ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560
และครั้งที่สามก็ได้ยื่นเสนอหนังสือไปให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องลงวันที่ 28
กุมภาพันธ์ 2560 โดยเนื้อความของหนังสือนั้น
ได้แบ่งประเด็นปัญหาความเดือดร้อนและรายละเอียดพอที่จะสรุปได้ในเบื้องต้นดังนี้
ข้อที่
1
ขอให้พิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุอุทกภัย จนถึงวันสิ้นสุดสถานการณ์โดยยึดตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ประกอบการก่อสร้างมีความจำเป็นต้องเข้าฟื้นฟูพื้นที่โครงการที่ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม
และน้ำท่วมขังเป็นเวลานานอีกทั้งยังจะต้องเร่งปรับปรุง ซ่อมแซมความเสียหายให้กับงานก่อสร้างที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
รวมถึงเครื่องมือเครื่องจักร และวัสดุที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย
ข้อที่ 2 ขอให้พิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้างแก่จังหวัดใกล้เคียงเพิ่มเติมอีก
2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา จากพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ สืบเนื่องจาก
12 จังหวัด ที่ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย
โดยเฉพาะปัญหาเส้นทางการคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย และปัญหาการลำเลียงวัสดุ เช่น หิน
ดินทรายที่ใช้ในการก่อสร้าง
ข้อที่
3 ขอให้ช่วยพิจารณา ออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น
ๆ ของรัฐจะได้ถือปฏิบัติ โดยไม่ใช้ดุลยพินิจ
โดยสรุป ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อเสนอที่ทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย
ฯ ได้ดำเนินการนำเสนอภาครัฐให้พิจารณา หามาตรการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนนั้น จากการที่ทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ฯ ได้ยื่นข้อเสนอไปแล้วนั้น ทางภาครัฐก็ได้รับทราบปัญหา จึงได้ออกมาตรการ ช่วยเหลือผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบ อันเนื่องจากอุทกภัยในภาคใต้ โดยมีเนื้อความมาตรการช่วยเหลือ
แก่ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม พอสรุปได้ ดังนี้
คณะรัฐมนตรี มีความเห็นชอบให้ส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐได้นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบ
อันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยภาคใต้
ที่คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุพิจารณาแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 8/2560 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2560
ไปถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกันโดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้นำมาตรการดังกล่าวไปบังคับใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ
หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทางตรง
หรือได้รับผลกระทบทางอ้อม จากการเกิดอุทกภัยในภาคใต้ ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 ถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2560 มีดังนี้
ผู้มีสิทธิ์ ได้รับความช่วยเหลือ
1. เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างเท่านั้น
2. ผู้ประกอบการก่อสร้าง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560
3. ผู้ประกอบการก่อสร้างที่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 ผู้ก่อการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทางตรง ในพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดพัทลุง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดตรัง จังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดกระบี่ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้
2. ผู้ประกอบการก่อสร้าง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560
3. ผู้ประกอบการก่อสร้างที่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 ผู้ก่อการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทางตรง ในพื้นที่ภาคใต้ 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดพัทลุง จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดตรัง จังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดกระบี่ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้
ประเภทที่ 2 ผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม
ในพื้นที่ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ และได้รับความเสียหายใน 3 ลักษณะ คือปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบวัสดุก่อสร้าง
และปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย
4. เป็นผู้รับจ้างที่ได้ลงนามทำสัญญาจ้างกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยบังคับใช้กับสัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้ลงนามกับหน่วยงานก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2559 หรือสัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้ลงนามไว้กับหน่วยงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560
ซึ่งสัญญาดังกล่าวยังมีนิติสัมพันธ์อยู่และยังมิได้มีการส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือสัญญาดังกล่าวยังมีนิติสัมพันธ์อยู่ แต่ได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายในช่วงวันที่
1 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560
ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่เกิดอุทกภัย
แนวทางการให้ความช่วยเหลือให้หน่วยงาน ขยายระยะเวลาขอสัญญาจ้างก่อสร้างที่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ
ดังนี้
(1) ขยายระยะเวลาออกไปอีกจำนวน 120 วัน สำหรับผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทางตรง
(2) ขยายระยะเวลาออกไปอีกจำนวน
70 วัน สำหรับผู้ประกอบการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม
นี้คือ มาตรการที่ภาครัฐ ได้ลงมติให้เป็นแนวทางการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง
เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบ
จากการเกิดอุทกภัยน้ำท่วม และจากนี้ไปผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบนั้น
จะต้องทำการศึกษา และทำความเข้าใจในเนื้อหาของมาตรการ
ว่าผลกระทบของกิจการเรานั้นจะเข้ากับมาตรการความช่วยเหลือในเงื่อนไขตามข้อใด
แล้วก็ไปดำเนินการติดต่อ เพื่อขอรับความช่วยเหลือ ตามเงื่อนไขและมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐ
ดังกล่าวได้ โดยตรง
------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น